Super moisturizer
เบสิกสกิน(BASIS SKIN)หรือการดูแลผิวขั้นพื้นฐาน สิ่งที่จำเป็นสำคัญคือ การใช้ครีมป้องกันแสงแดดทุกเช้าและครีมถนอมผิวสมำเสมอพร้อมทั้งเสริมตัวต้านอนุมูนอิสระเพื่อหวังผลการชลอริ้วรอยและป้องกันไม่ให้ผิวหมองคล้ำ โดยปัจจุบันมีการนำเสนอหน้าที่ของครีมบำรุงผิวทั่วไป คือให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ทำให้ผิวที่แห้งหยาบกร้านนั้นกลับคืนสู่สภาพที่เนียนนุ่มดั่งเดิม แต่หลายคนคงเคยสังเกตุว่าแม้ว่าเราจะทาครีมบำรุงต่าง ๆ มากมายหลายชั้น หรือทาบ่อย ๆ ใบหน้าหรือผิวพรรณยังคงสภาพแห้งมีขุยอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าครีมบำรุงนั้นจะโฆษณาว่ามีส่วนประกอบที่ใช้จะมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวได้ดีเพียงใดก็ตาม ดังนั้นแสดงว่าต้องมีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่ทำให้การทาครีมบำรุงผิวนั้นไม่ประสพผลสำเร็จ อันดับแรกที่ควรนึกถึงคือ
1. สภาพผิว มีการอักเสบ เป็นผื่น แห้งคันมีขุย หรือแม้กระทั่งการล้างหน้าบ่อยๆ ทดสอบโดย การรู้สึกตึงหน้าหลังล้างหน้านานเกินครึ่งชั่วโมงขึ้นไป
2. สภาพภูมิอากาศและอุณหภูมิ ฤดูหนาว ฤดูร้อนนอนห้องแอร์ ทำงานห้องแอร์ อาบน้ำอุ่น เล่นกีฬากลางแจ้ง
3. ลักษณะของผิวว่าเป็นชนิดใด ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม
4. สิ่งแวดล้อม มลภาวะต่างๆ
5. การมีโรคประจำตัวที่ส่งผลทำให้ผิวมีปัญหา เช่น (Icthyosis หรือ Seborrheic Dermatitis) การทานยากลุ่ม Ratinoid
ฉนั้นการดูแลบำรุงผิวที่ดี นอกจากจะคำนึงถึงปัจจัยที่มีผลต่อผิวพรรณของเราแล้วยังต้องเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีประโยชน์ครอบคลุมปัญหาดั่งที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เช่นมีคุณสมบัติลดการอักเสบผิว ลดอาการระคายเคือง เพิ่มการบำรุงผิว ลดการสูญเสียน้ำเป็นต้น ปัจจุบันวงการแพทย์หรือเครื่องสำอางค์ จะหันมาใช้บริการพืชหรือสมุนไพร แทนพวกสารเคมีสังเคราะห์ ตัวอย่างที่กำลังเป็นที่นิยมและมีประโยชน์มาก เช่น....อโลเวร่า (alovera) หรีอต้นว่านหางจระเข้ เป็นสมุนไพรไม้ป่าในตระกูลไม้ดอกประเภทพลับพลึง เป็นที่รู้จักและใช้กันมานานมีคุณสมบัติในการรักษาและพื้นฟูผิว คือช่วยลดอาการเจ็บปวดและลดการอักเสบองผิว อันเนื่องจากความร้อน แผลไหม้ หรือแดดเผา โดยในเนื้อของอโลเวร่าประกอบด้วยสารสำคัญที่สกัดได้ เช่นวิตามินบีหนึ่ง บีสองและบีหก โปรแตสเซียมและแคลเซียมโดยมีโพลีแซกคาไรด์เป็นสารประอบทำให้ดูลักษณะเป็นวุ้นเจลใส ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวทำให้เกิดการดึงความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอเป็นส่วนสำคัญในการซ่อมแซมและพื้นฟูผิว
คาโมไมล์ (Chamomile) เป็นสมุนไพรที่ค้นพบเจอตั้งแต่สมัยอียิปต์ ลักษณะกานดอกสีขาว (Weed white)พบมากที่ยุโรปโดยมีคุณสมบัติหลายประการในด้านการแพทย์ ลักษณะใบอาจนำไปสกัดทำน้ำมันหอมระเหยได้ คุณสมบัติเด่นก็คือการบรรเทาผื่นแดง แผลไฟไหม้และผิวไหม้จากแสงแดดได้ดีลดอาการคันจากโรคผิวหนังอักเสบได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ลดการระคายเคืองผิว เพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวอีกทั้งช่วยทำให้ผิวแข็งแรง อี พี โอ ( Evening Primrose Oil ) เป็นพืชดอกสมุนไพร มีมากในแถบยุโรปและออสเตรีย นำดอกใบมาสกัดเป็นน้ำมันซึ่งในน้ำมันประกอบด้วย GLA (Gamma linolenic acid ) มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ผิว ลดการอักเสบของผิวหนังโดยเฉพาะกลุ่มโรคผิวอักเสบจากภูมิแพ้ ( Atopic dermatitis ) หรือลดการระคายเคืองจากผิวอักเสบ Seborrhea dermatitis ปัจจุบันสามารถทำ อี พี โอ มาทำเป็นอาหารเสริมรับประทาน หรือทำเป็นส่วนประกอบของครีมเวชสำอาคซึ่งมีประสิทธิภาพดีสำหรับผิวพรรณ
โจโจบา ออยล์ (JoJobar oil) เป็นการสกัดส่วนที่เป็นเมล็ดของต้น Shrub (Simondia chinemis) จากทะเลทรายโซโนแรนทางตะวันตกของแคลิฟเนียร์ มีการใช้โจโจบาออยล์เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางค์ อาหารและยาในศตวรรษที่ 20 จากรายงานพบว่าโจโจบาออยล์มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำมันปลาวาฬ เช่นช่วยความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังที่แห้งมาก และเป็นสะเก็ด ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิวลดริ้วรอยจากความแห้งของผิวได้ดี
ขณะนี้ได้มีเทคโนโลยีของระบบนำพาสารหลักต่าง ๆ ให้เข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธภาพซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเรียกว่า Nu - Encap (นู - เอ็นแคป)คือ การเก็บกักตัวครีมหรือสารหลักจะคงสภาพอยู่ในรูปของเม็ดครีมเล็ก ๆ เรียกว่าเม็ดบีด (Bead) โดยโครงสร้าง Nu - Encap ที่นำมาประยุกต์ใช้กับสารหลักที่เป็นบำรุงผิวจะประกอบด้วย
1 Muti-encapsulation moisturizer Bead
ซึ่งทำหน้าที่บรรจุตัวยาหรือสารหลักให้อยู่ในเม็ดใสเล็กๆเวลาทาครีมหรือละลายเม็ดทาแล้ตัวสารหลักจะออกฤทธิ์ซึ่มเข้าสู่ใต้ผิวโดยออกฤทธิ์ตามคุณสมบัติครบตามที่เราต้องการ
2 Moisturizer vehiche gel
ส่วนประกอบที่เป็นเจลมีหน้าที่เป็นบำรุงผิวด้วยและเพื่อการคงสภาพของเม็ดบีด ซึ่งตัวเจลจะทาไม่เหนียวเหนอะเพราะเป็นลักษณะรักษาน้ำให้อยู่ในผิวตลอดเวลา (anhydrous base) นี่เป็นการปฏิวัติครีมถนอมผิวที่มีคุณสมบัติลดการอักเสบพร้อมทั้งเพิ่มความชุ่มชื้น จัดเป็นครั้งแรกของโลก เพราะมีการผ่านการทดลองและทำการจดสิทธิบัตรอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้นนี่ก็เป็นทางเลือกใหม่ในการที่จะใช้ครีมบำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิว จึงไม่เกินเลยว่าจะเรียก Nu - Encap ที่มีเม็ดบีดเป็นกลุ่มถนอมผิวนี้ว่าเป็น Ultra hydration หรือ Super moisturizing
Super whitenning
ใคร ๆ ก็อยากขาวไม่ว่าคุณจะอยู่ในอาชีพใดต้องมีความต้องการอยากให้หน้าขาวขึ้นกว่าเดิม แต่โดยส่วนใหญ่จะละเลยปัญหาที่ควรจะดูแลเบื้องต้นก่อนเสมอเช่น รอยดำจากสิวเนื่องจาก สิวอักเสบ รอยกระ รอยฝ้า จะสังเกตุไหมว่า ถ้ายังเน้นรักษาให้หน้าขาวเรื่อยๆขึ้นเมื่อไรรอยเม็ดสีต่างๆก็จะเห็นชัดขึ้นเหมื่อนกันแต่ในความเป็นจริงเม็ดสีก็มีการจางลงโดยได้ระดับหนึ่งแล้ว ส่วนความต้องการในด้านความขาวแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันแต่คงไม่มีใครต้องการให้ผิวขาวเหมือนสีกระดาษ หรือหน้าขาวลอยเหมือนงิ้ว ความขาวในหลักการของแพทย์ คือ ขาวเนียนนุ่ม กับขาวใส สำหรับตัวการที่ทำให้ผู้คนกังวลกับริ้วรอยหมองคล้ำบนใบหน้า คือ ตัวอนุมูลอิสระ (Free Radical ) ซึ่งจะไปทำให้เม็ดสีเมลานินผิดปกติ เนื่องจากการถูกกระตุ้นด้วยความร้อนแสงแดด ยูวี และฮอร์โมน
อาการหมองคล้ำจากรังสียูวี แบ่งเป็น 2 จำพวกประเภทแรกคือ
การหมองคล้ำระยะสั้น (Immediate tanning) หมายถึง การที่ผิวหนังดูดซับแสงแล้วมีกริยาเกิดการป้องกันตัวเองโดยเม็ดสีถูกกระตุ้นให้มาต่อต้านจะเกิดเป็นอาการใหม้แดดหรือคล้ำแบบทั่นที่เป็นช่วง2-3วันแรก
การหมองคล้ำระยะล่าช้า (Delay tanning) ก็หมายถึงการที่เม็ดสีกระจายตัวอยู่นานๆอาจเกิดอาการหมองคล้ำนาน 7-14วันเป็นอย่างน้อยและถ้าเกิดการกระตุ้นจากแสงแดดนานๆเม็ดสีจะผลิตมากขึ้นถ้าเกิดจับตัวเป็นกระจุกก็จะมองเห็นเป็นกระสีน้าตาลเล็กๆ แต่ถ้ามองเห็นเป็นแผ่นปื้นเราเรียกว่าฝ้าโดยจะเห็นได้ว่าครีมกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญมากและคุณผู้หญิงควรจะกลัวยูวีให้มากๆ เพราะเป็นตัวหลักที่ไปกระตุ้นเม็ดสี Melanin ให้สร้างมากผิดปกติส่วนสาเหตุอื่นเช่นโฮโมน์นั้นเราไม่สามารถควบคุมได้แต่ในปัจจุบันได้มีกลุ่มสาร ที่ช่วยยับยั้งสารอนุมูลอิสระลดบทบาทการทำลายผิวจากการสัมผัสแสงได้อีกทั้งมีผลดีสำหรับผิวพรรณโดยช่วยชลอริ้วรอยและทำให้หน้าขาวใสด้วย ตัวอย่างที่นิยมในเวชสำอางในปัจจุบัน เช่น
1. ส่วนผสมพิเศษจากธรรมชาติ AHA (Alpha hydroxy acid) ซึ่งได้จากอ้อย องุ่น แอปเปิ้ล คุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นขี้ไคลให้หลุดออกไปทำให้ผิวเนียนนุ่ม ลดรอยเหี่ยวย่น ลดจุดด่างดำ ทำให้ผิวดูใส ขาวเนียนขึ้น
2. ชาเขียว Green tea นอกจากนำมารับประทานเป็นที่นิยมกันแล้วยังมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระซึ่งมีมากว่าวิตามินอีถึง 20 เท่า ในชาเขียวมีสารโพลีนอลช่วยต่อต้านอักเสบ ป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนัง เนื่อจากมีสาร Catechins ช่วยลดการกดภูมิของอนุมูลอิสระจากการสัมผัสรังสียูวีบี อีกทั้งเป็นสารช่วยทำให้ขาวเนียนด้วย
3. สารชะเอม Licorice เป็นสมุนไพรพื้นเมืองของจีนมีการนำสารสกัดจากรากของชะเอมมาใช้ที่มีชื่อว่า Lichochacone มีคุณสมบัติในการต่อต้านรังสียูวีเอและรังสียูวีบี อีกทั้งลดการทำงานของเม็ดสีให้ทำงานปกติ หรือน้อยลงได้
4. สารสกัดจากเปลือกต้นหลิว Willow Bark เป็นสมุนไพรสกัดจากเปลือกต้นหลิวจากออสเตรเลียใช้ในการเตรียมสารกันแดดหรือฟื้นฟูผิวหนังจากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวสดใส
5. น้ำมันอบเชย Cinnamon oil เป็นสมุนไพรสกัดมาจากเปลือกของต้นอบเชยในประเทศอินเดีย น้ำมันที่ได้จะมีกลิ่นหอมสดชื่นอีกทั้งยังสกัดได้สาร Cinamate และ Octyl methoxycinamate ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีฤทธิ์ป้องกันรังสียูวีเอและบี นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ในการป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิวทำให้ผิวชุ่มชื้นสดใสขึ้น และป้องกันสิวอักเสบและอุดตันด้วย
6. Myrtus leaf สารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติออกฤทธิ์ป้องกันยูวีเอและบีทำให้ผิวไม่หมองคล้ำอีกทั้งมีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบของผิวด้วย ซึ่งในบางครั้งนำมาเป็นอาหารเสริมใช้ได้ทั้งทานและทาผิว
7. Coezyme Q 10 เป็นสารที่ต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากในขณะนี้เพราะโคเอนไซม์เป็นส่วนประกอบที่จำเป็นต่อการทำงานของเอนไซม์ โคเอนไซม์ คิว 10 เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์เพื่อสร้างเซลล์ใหม่ พบในร่างกายทุกระบบและลดลงเมื่ออายุมากขึ้น คุณสมบัติคือสามารถป้องกันการทำลายผิวจากรังสียูวีเอได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับวิตามินอีแล้ว โดเอนไซม์ คิว 10 มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระดีกว่าหลายเท่า ซึ่งรู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า Ubiquinone มีผลทำให้หน้าขาวใสและชะลอริ้วรอยได้ดี
8. มัลเบอร์รี (หม่อน) สารยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสสกัดได้จากรากของต้นหม่อนสามารถทำให้ผิวหนังขาวขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสารเคมีฟอกขาว อย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มสารฟอกสีทำให้ผิวขาวมากมายที่ใช้ในเครื่องสำอางค์ เช่น Arbutin ,Kojic acid วิตามินซีและอี หรือ Niacinamide แต่อย่าลืมว่าถ้าใส่ในปริมาณมากจะขาวมากจนทำให้เกิดด่างขาวขึ้นได้ ฉนั้นองค์การอาหารและยาได้จำกัดความขาวในเครื่องสำอางค์ไว้ในระดับหนึ่งซึ่งไม่ให้ก่อโทษต่อผู้บริโภคและอย่าลืมว่าสารบางตัวเมื่อหยุดใช้แล้วผิวที่ขาวอาจจะกลับมาคล้ำได้เหมือนเดิม