นพ.จารุวัธน์ พลเดช
25 พฤษภาคม 2551
วิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุดนั้นไม่มีในโลก ในแต่ละบุคคลวิธีการขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความเข้าใจที่ถูกต้อง ตามหลักวิชาการวิธีที่จะลดน้ำหนัก คือ ต้องควบคุมอาหาร เพิ่มการออกกำลังกายและเร่งใช้พลังงานออกให้มาก พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารให้เหมาะสม การลดน้ำหนักต้องใจเย็นค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปการลดวิธีนี้จะได้น้ำหนักลดประมาณสัปดาห์ละ 0.5-1 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับ 1-2 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำหนักโดยรวมซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลยแต่วิธีการที่จะไปถึงจุดนั้นได้ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน
เป้าหมายการวางแผนจัดการการรับประทานเพื่อลดน้ำหนักนั้นไม่ใช่การอดอาหารเพื่อทำให้น้ำหนักตัวลดเร็ว เพราะจะเกิดการเก็บกด พอเลิกจากโปรแกรมแล้วคุณก็หันกลับมาทานอาหารอย่างเดิมในปริมาณที่มากกว่า น้ำหนักก็ไม่ลดแถมเพิ่มขึ้นอีกนับว่าเป็นวิธีการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักที่ล้มเหลวที่สุด
การรับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนักที่ถูกในที่นี้คือการเน้นไปที่คุณภาพอาหารมากกว่าปริมาณ อาหารที่ทานเข้าไปอาหารที่มีประโยชน์ไม่ใช่อร่อยและถูกปากตามใจปากเท่านั้นควรเลือกประเภทของอาหารและต้องละเว้นหรือเลิกทานบางชนิดเช่น อาหารจำพวกที่มีไขมันโมเลกุลใหญ่จำพวกเนื้อติดมัน ทุกชนิดลดปริมาณของหวานจัด ลดจำนวนเนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ดื่มน้ำสะอาดให้มากขื้น ถ้าปรึกษานักโภชนาการจะให้ความเห็นเกี่ยวกับอาหารที่รับประทานเข้าไปนั้นก่อให้เกิดเป็นพลังงานเพื่อใช้ในการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ทุกระบบในร่างกายหน่วยวัดพลังงานที่เราเรียกว่าแครอรี่ในการรับเข้าแครอรี่ของอาหารต้องคำนวณจากปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปชนิดของอาหารและมาหักลบกับจำนวนพลังงานกิจกรรมที่แต่ละคนได้ทำในแต่ละวันให้เกิดการติดลบไม่ให้เกิดพลังงานไขมันสะสมที่เป็นบ่อเกิดของการเพิ่มน้ำหนักตัวและก่อให้เกิดรอยโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ โรคความดัน ตามมา
1. อาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่เรา เรียกว่า คาร์โบไฮเดรทจะได้พลังงานเสริมร่างกายโดย 1 กรัมเท่ากับ 4 แครอลี่
อาหารที่ควรงด -ข้าวขัดขาว ขนมปังขาว อาหารที่เกิดจากแป้งพอกสี
- น้ำตาล ของหวานรสจัด
- แอลกอฮอล์
อาหารที่ควรรับประทาน - ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ อาหารที่ไม่ผ่านการขัดสีผิวขนมปังโฮวีท - ผักสดตามฤดู เลือกชนิดที่มีสีเพราะจะอุดมไปด้วยวิตามิน เช่น บล็อกคอรี่ แครอท ผักกาดขาว ผักบุ้ง ฟักทอง
- ผลไม้สดทุกชนิด ยกเว้นกลุ่มที่เป็นเบาหวานควรหลีกเลี่ยงผลไม้หวานจัด
2. อาหารจำพวกโปรตีน ได้รับ 1 กรัมเท่ากับ 4 แครอลี่ เหมือนกลุ่มคาร์โบไฮเดรทมีหน้าที่สร้างความเจริญ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
อาหารที่ควรงด - เนื้อแดงของสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู
- เนื้อสัตว์ที่ผ่านขบวนการหมักผสมสารกันบูด เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก กุนเชียง เนื่องจากมีความเค็มสูง ทำให้ร่างกายบวมน้ำได้
อาหารที่ควรรับประทาน - ปลา โดยเฉพาะปลาเนื้อขาว ปลาทะเล
- เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ไม่ติดหนังไขมันปน
- ถั่วต่าง ๆ เช่นถั่วแดงถั่วลิสงถั่วฝักยาว
3. อาหารพวกไขมันจะให้พลังงานความร้อนหลักในร่างกาย 1 กรัมได้ 9 แครอลี่
อาหารที่ควรงด - ไขมันในเนื้อแดงทุกชนิด
- เนย มาร์การีน น้ำมันไม่อิ่มตัว
อาหารที่ควรรับประทาน - น้ำมันพืช
- นมไขมันต่ำ
- ไข่ไม่เกินสัปดาห์ละ 3-4 ฟอง
วิธีการรับประทานอาหารโดยเลิกอ้วนอย่างเคร่งครัด
- งดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวเยอะ เช่น อาหารจานด่วน เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด พิซซ่า ข้าวมันไก่ ขาหมูคากิที่ติดมันล้วน ๆ
- ลดจำนวนแป้งลงเช่นทานเน้นเป็นวุ้นเส้นหรือเส้นหมี่แทน
- เลือกรับประทานอาหารจำพวกต้มมากกว่าทอด
- ดื่มน้ำเข้าไปก่อนรับประทานอาหารให้รู้สึกอิ่มก่อนมื้ออาหาร
- เคี้ยวอาหารช้า ๆ ละเอียด ๆ จะรู้สึกอิ่มเร็ว
- แบ่งเวลารับประทานอาหารมื้อที่ให้พลังงานมาก ควรเป็นมื้อเช้าและมื้อกลางวันส่วนตอนเย็นให้ลดลง ทานเป็นของที่ย่อยง่าย ๆ หรือเป็นจำพวกสลัด ผลไม้ สุกี๋
- ก่อนทานอาหารให้จินตนาการรูปร่าง ทรวดทรง เสื้อผ้าหรือแม้กระทั่งโรคที่จะตามมาเมื่อเราตามใจปากเกินไป
- ใช้หลัก 80/20 คือรับประทานอาหาร 20 ออกกำลังกาย 80
สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะใส่ใจดูแลสุขภาพแบบจริง ๆ จัง ๆ กันหรือเปล่าโดยส่วนใหญ่แพทย์พร้อมให้คำอธิบายแนะนำสิ่งที่ถูกต้องปลอดภัยเสมอเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อโรคยา..ปาลมะ ลาภา
ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่างรบกวนครับ
Paretosclinic.com/2008