วิตามินซี สำหรับผิวสวย
นพ. จารุวัธน์ พลเดช
ปัจจุบันมีการนำวิตามินเข้ามาใช้ในการดูแลรักษาผิวพรรณไม่ว่าจะป็นอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้ผสมส่วนของวิตามินเข้าไป แล้วโฆษณาสรรพคุณของวิตามินนั้นเกินจริงว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาได้สารพัดโดยบางครั้งครีมที่ทานั้นอาจมีคุณภาพแค่บำรุงผิวเท่านั้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริโภคที่ควรหาข้อมูลก่อนใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงใด
วิตามินที่มีความสำคัญตัวหลัก คือ วิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงในแง่ของการบริโภค ส่วนการนำวิตามินซีมาผสมทำเป็นยารักษาผิวนั้น ปัจจุบันก้าวหน้าไปจนถึงนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี สามารถนำพาวิตามินซีเข้าสู่ผิวโดยตรง โดยไม่สูญเสียคุณภาพเมื่อถูกกับอากาศ วิตามินซีได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ผิวหนังว่าสามารถลดการเกิดเม็ดสีเมลามีน ที่จะก่อให้เกิดรอยคล้ำ ฝ้า กระ
ข้อเสียวิตามินซี คือ สลาย....ได้ง่ายเมื่อถูกอากาศและแสง โดยทั่วไปเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง วิตามินซีจะเปลี่ยนสี เพราะฉนั้นการเก็บวิตามินซีต้องเก็บไว้ในขวดสีชา
วิตามินซี สำหรับผิวสูตรใหม่จะทำให้เป็น stabiliged vitamin c โดยอยู่ในรูป L-Ascobic acid สมัยก่อนถ้าใช้ในรูป c-esters หรือ Megnescir ascorbates พวกนี้ เมื่อนำมาทายังไม่ซึมเข้าผิวก็สลายไปแล้ว เนื่องจากวิตามินซี สลายตัวในอากาศได้ง่าย วิตามินซีโฉมใหม่จะทำในรูป glycol base ซึ่งจะสลายตัวได้ยาก สามารถใช้เป็นตัวแรกก่อนที่จะใช้เวชสำอางค์อื่น
สำหรับผิวมันสามารถทาได้ เช้า เย็น
สำหรับผิวแห้งทาแล้วต้องใช้บำรุงทาตาม
ริ้วรอยควรใช้ติดต่ออย่างน้อยสามอาทิตย์
รอยหมองคล้ำ ภายใน 72 ชม. ก็เห็นผล
การทำให้ครีมวิตามินซีเสถียรต่ออากาศอยู่ได้นาน
- ใช้ตัวกูลโคส glucoside มาจับเป็นวิตามินซี
- ใช้บรรจุภัณฑ์สีชาเข้มป้องกันแสง
- ทำแบบ Serum ดูดซึมง่าย
- เปอร์เซนต์สูงสุดที่ผิวหนังรับได้ 20 เปอร์เซนต์
- อยู่ในรูปของ L-ascorbic acid
สารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินซีปกติ ควรบริโภค 60 มิลลิกรัมต่อวัน ถ้าเป็นวิตามินซี สำหรับผิวหนัง 1000 1500 มิลิกรัมต่อวัน แต่ถ้าหวังผลต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำให้แก่ช้า ควรทานอย่างน้อย 2000 3000 มิลลิกรัมต่อวัน อนุมูลอิสระ คือ โมเลกุลที่สูญเสีย อิเล็กตรอนไป หนึ่งตัวทำให้ตัวไม่เสถียรจึงต้องไปแย่งชิงอิเล็กตรอนจากเซลล์ที่อยู่รอบ ๆ ข้างเช่น เซลล์ในร่างกาย เกิดปฏิกริยาลูกโซ่เกิดความเสียหายต่อระบบไขมัน โปรตีน ทำให้เกิดความเสื่อมของเซลล์และสุขภาพนำมาซึ่งความอ่อนล้า ความโหยหิว ความโทรม ความแก่ ความไม่กระฉับกระเฉง จนถึงการเกิดโรคต่าง ๆ ขึ้นได้
โดยทั่วไปสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่น เช่น แคโรทินอยด์ วิตามินเอ วิตามินอี ซิลีเนียม วิตามินบี 2 สังกะสี โคเอ็นไซด์คิวเทน ใบแปะก๊วย ชาเขียว ไลโคฟีน องุ่น แต่โดยรวมแล้ววิตามินซีสำคัญที่สุด วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุด ลดการอักเสบในร่างกายทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ในขบวนการเผาผลาญอาหาร อาหารมีส่วนสำคัญในเม็ดเลือดแดงทำหน้าที่จับออกซิเจนไปส่งให้เซลล์ปลายทางได้ดี มีหน้าที่ต้านไวรัส รักษาและป้องกันไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่สามารถลดอาการรุนแรงของโรค และระยะเวลาป่วยลง 20 %
อาการขาดวิตามินซี
- ไม่มีแรง
- ป่วยเป็นไข้หวัด โรคติดเชื้อบ่อย ๆ
- อ่อนเพลีย อ่อนล้า
- เจ็บตามกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ
- แผลหายช้า
- เลือดออกตามไรฟัน
- ผิวหนังซีด แห้งกร้าน ไม่ชุ่มชื้น
อาหารที่ให้วิตามินซีสูงและช่วยต้านอนุมูลอิสระ
บล๊อกโคลี มะละกอ พริกหวานสีเขียว ฝรั่ง ผลไม้กลุ่มส้ม มะนาว เป็นต้น